Dec 14, 2009

เพ้นท์จุก6นางแบบ 'ปฏิทินลีโอ2010' เร่าร้อน เซ็กซี่!!

Pic_52953

เผยโฉม 6 นางแบบ "ปฏิทินลีโอ2010" แล้ว นำโดย อุ้ม-ลักขณา แพม เดอะกิ๊ก ไฮโซครี เรียกเสียงครางฮือ!! ทั้งเซ็กซี่ เร่าร้อน ...

ได้ฤกษ์เผยโฉม 6 นางแบบถ่าย "ปฏิทินลีโอ2010" เรียกเสียงครางฮือ!! ของหนุ่มๆ ได้มากทีเดียว เพราะทั้ง 6 สาวมาในสภาพที่เปลือยกาย เปลือยอก ให้ "เพ้นท์" เป็นเสื้อผ้าอำพรางเรือนร่างแทน ในธีม "Body Paint" นำทีมความเซ็กซี่โดย อุ้ม-ลักขณา, แพม เดอะกิ๊ก, ไฮโซครี-พัสวีพิชญ์, แอนนา รีส นางเอกจากภาพยนตร์เรื่องปืนใหญ่จอมสลัด, มิกซ์ เจนจิรา อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ และแอม นางแบบชื่อดังแห่งยุค


เมื่อเห็นครั้งแรกต้องบอกเลยว่าเพ้นท์ได้เนียนจริงๆ มองผ่านๆ นึกว่าสวมอาภรณ์ แต่เมื่อซูมเข้าใกล้ๆ กลับเป็นการใช้ศิลปะการเพ้นท์นำเสนอออกมาได้อย่างเซ็กซี่ และเร่าร้อนมากๆ เห็นทีหนุ่มๆ ต้องหาซื้อเก็บไว้ซะแล้ว "ลีโอ" ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ .





ข่าวและภาพจาก ไทยรัฐ

Nov 19, 2009

Virtual memory is too low

ปัญหาWindow XPมันขึ้นเตือนเป็นรูปตกใจมุมล่างขวา
ว่า Memory Low

วิธีแก้ไข
คุณอาจจะตั้ง virtual memory น้อยเกินไปครับ
(มันไม่ได้เอาเนื้อที่ที่เหลือทั้งหมดบน hdd ทำ vm หรอก)

ไปปรับที่ system properties > advanced > (performance) settings

จะเจอ performance options > advanced > (virtual memory) change

เจออีกหน้าต่างนึง virtual memory เลือกไดรฟ์ที่มีตัวเลขอยู่

แก้ไขโดยเพิ่ม maximum size ขึ้นไปอีกครับ เสร็จแล้วกดปุ่ม set จากนั้นก็ restart

ความแตกต่าง จุดเด่น จุดด้อย ของแรม DDR DDR2 SDRAM

แบบสั้น ๆ นะครับ
SDRAM (Synchronous Dynamic Random Access Memory) ใน 1 สัญญาณนาฬิกาสามารถส่งหรือรับข้อมูลได้ 1 ทางเท่านั้น บัสสูงสุดอยู่ที่ 133MHz (66MHz, 100MHz และ 133MHz) ใช้ไฟเลี้ยง 3.3 โวลต์ มีขาทั้งหมด 168 Pin ปัจจุบันเลิกผลิตไปแล้วครับ

รูป SDRAM


DDR SDRAM (Double Data Rate SDRAM) พัฒนามาจาก SDRAM สามารถทั้งรับและส่งข้อมูลได้ใน 1 สัญญาณนาฬิกา ใช้ไฟน้อยกว่า SDRAM (2.5 โวลต์) มีความเร็วบัสที่หลากหลายกว่า SDRAM ที่เห็นกันบ่อยๆ ก็มี PC2100,PC2700 และ PC3200 (มีความเร็วบัสสูงกว่านี้ แต่ราคาก็จะสูงขึ้น) มีขาทั้งหมด 184 Pin เริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 และยังคงเป็นมาตรฐานของ RAM อยู่ แต่อาจถูก DDR2 กลืนหายไปในไม่ช้า เนื่องจากราคา DDR กับ DDR2 ในปัจจุบันไม่แตกต่างกันเลยครับ

รูป DDR SDRAM


DDR2 SDRAM สามารถรับส่งข้อมูลได้เป็น 2 เท่าของ DDR และกินไฟน้อยกว่า DDR คือใช้ไฟเลี้ยงเพียง 1.8 โวลต์ มีขาทั้งหมด 240 Pin ครับ

รูป DDR2 SDRAM

รูปการทำงานของ RAM ที่ถามมาให้ดูเพิ่มเติมกัน


ขอบคุณข้อมูลจาก
http://community.thaiware.com/thai/index.php?showtopic=303193

10 วิธี ดูแลฮาร์ดดิสก์ ให้มีสุขภาพดี

10 วิธี ดูแลฮาร์ดดิสก์ ให้มีสุขภาพดี



แนะนำการบำรุงรักษาอุปกรณ์สำคัญของคอมพิวเตอร์นั่นก็คือ “ฮาร์ดดิสก์” ซึ่งสำหรับใครที่ยังมีฮาร์ดดิสก์ อยู่กับตัว ไม่พังไปเสียก่อน อ่านบทความนี้แล้วหมั่นปฏิบัติตาม รับรองว่าดีต่อฮาร์ดดิสก์ของคุณแน่นอน โปรแกรมที่คุณใช้งานอยู่เป็นประจำทำงานช้าลงหรือเปล่า? หรือพีซีอายุใช้งาน 4 เดือนของคุณมีอาการงอแงหรือไม่? ต่อไปนี้คือวิธีการแก้ปัญหาและเพิ่มความเร็วให้กับฮาร์ดดิสก์ตัวเก่งของคุณ
การเป็นเจ้าของและใช้งานฮาร์ดดิสก์โดยไม่เคยสแกนตรวจสอบก็เหมือนกับการมีรถยนต์คันหร ูที่เอาแต่ขับอย่างเดียวไม่เคยเข้า ศูนย์บริการ ซึ่งทิปต่อไปนี้สามารถกระทำได้โดยไม่ต้องลงแรงมากนัก เพียงแค่เจียดเวลาสักนิดในการปฏิบัติตาม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ ฮาร์ดดิสก์ของคุณกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนใหม่และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

1. สแกนหาไวรัส

จัดเป็นข้อควรปฏิบัติที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ที่คุณควรให้ความสำคัญและหมั่นทำเป็นประจำ เราคงไม่ต้องบอกคุณแล้วว่าไวรัสในปัจจุบันนั้นมีฤทธิ์เดช ร้ายแรงแค่ไหน เอาเป็นว่าให้คุณลองนึกถึงตอนที่ไฟล์ข้อมูลสำคัญในฮาร์ดดิสก์ถูกทำลายหรือเสียหายเพี
ยงแค่เพราะว่าคุณไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมป้องกัน ไวรัสเอาไว้ในเครื่อง หรือใครที่ติดตั้งเอาไว้แล้วก็ไม่ควรชะล่าใจ ลองตรวจสอบวันที่ของฐานข้อมูลไวรัส (Virus Definition) ถ้าเก่า เกินกว่า 30 วัน ก็ควรรีบทำการอัพเดตให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันเพื่อการป้องกันที่เต็มประสิทธิภาพ จากนั้นทำการสแกนฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดที่ติดตั้งอยู่ในระบบ ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้กำหนดตารางเวลาในการสแกนเป็นประจำทุกสัปดาห์

2. ปัดกวาดไฟล์หรือขยะที่ไม่ได้ใช้

ยิ่งใช้งานเครื่องมานานเท่าใด ไฟล์ข้อมูลเก่าๆ หรือขยะในเครื่องก็จะเพิ่มพูนมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ข้อมูลเก่า โปรแกรมเก่า ไฟล์ชั่วคราว ที่หลงเหลือจากการท่องอินเทอร์เน็ตรวมทั้งไฟล์ที่ตกค้างจากการติดตั้งโปรแกรมในโฟลเด
อร์เก็บไฟล์ชั่วคราวของวินโดว์ส ซึ่งวิธีการง่ายๆ ในการ กำจัดไฟล์ขยะเหล่า นี้ก็คือการใช้ยูทิลิตี้ Disk Cleanup ของวินโดว์สหรือจากออปชันทำความสะอาดไฟล์ในโปรแกรม IE โดยตรง (Tools -> Internet Options)

3. กำจัดขยะในซอกหลืบ

แม้ว่าคุณจะทำการลบไฟล์ขยะด้วยตัวเองไปแล้ว แต่ก็ยังอาจมีเศษขยะที่มองไม่เห็นตกค้างอยู่ในฮาร์ดดิสก์ของคุณอีกมากมาย โดยเศษขยะในที่นี้ หมายถึงบรรดา สปายแวร์หรือแอดแวร์ต่างๆ ด้วย ซึ่งวิธีการตรวจสอบหาขยะเหล่านี้จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษคือโปรแกรมอย่างเช่น Ad-aware หรือ Spybot Search & Destroy ที่หาดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญคืออย่าลืมอัพเดตฐานข้อมูลให้กับโปรแกรมดังกล่าวก่อนเริ่ม ทำการสแกนระบบด้วย

4. หมั่นใช้สแกนดิสก์

เมื่อใดก็ตามที่พื้นที่เก็บข้อมูลในฮาร์ดดิสก์เกิดบกพร่องเสียหาย เรามักจะใช้คำแทนจุดบกพร่องนั้นๆ ว่า “Bad Sector” ซึ่งมีความหมายว่า บริเวณพื้นผิวของจาน แม่เหล็กเกิดความเสียหายจนไม่สามารถทำการอ่านข้อมูลได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขนั้นคือการใช้ยูทิลิตี้ Scandisk ของวินโดว์ส ในการตรวจสอบหาจุดที่เกิด Bad Sector และย้ายข้อมูลที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ ไปยังเซกเตอร์อื่นๆ ที่ปกติทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของไฟล์ข้อมูล โดยในหน้าต่างยูทิลิตี้ Scandisk นั้นให้คุณเลือกออปชัน Scan for and attempt recovery of bad sectors ด้วยก่อนเริ่มทำการสแกน นอกจากนี้หากคุณใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 98/Me แนะนำให้ปิดการทำงาน ของสกรีนเซฟเวอร์ก่อนเริ่ม Scandisk ด้วย

5. จัดเรียงข้อมูลให้เป็นระเบียบ

โปรแกรม Defragmenter ที่ไม่ต้องเสียเวลาหาให้ไกลเพราะมีอยู่ในวินโดว์สทุกเวอร์ชันแล้วนั้นจะช่วยในการจัด
เรียงข้อมูลที่ถูกเขียนลงฮาร์ดดิสก์ อย่างสะเปะสะปะ ให้มีระเบียบและเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้หัวอ่านฮาร์ดดิสก์ไม่ต้องทำงานหนักและใช้เวลาในการอ่านข้อมูลสั้นล
ง และโปรดอย่าเข้าใจผิดคิดว่าโปรแกรม จะจับไฟล์ในโฟลเดอร์ของคุณไปสลับสับเปลี่ยนหรือเรียงไว้ในโฟลเดอร์อื่นๆ จนหาไม่เจอ เพราะการ Defrag นั้นจะทำการจัดเรียงไฟล์ข้อมูลบนดิสก์เท่านั้นไม่ส่งผล กระทบต่อโครงสร้างการเก็บไฟล์ในวินโดว์สแต่อย่างใด

6. เก็บทุกอย่างให้เข้าที่

ขั้นตอนนี้จะเรียกว่าเป็นวินัยส่วนตัวก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นลิ้นชักตู้เสื้อผ้าหรือฮาร์ดดิสก์ก็ล้วนต้องการระบบระเบียบในการจั
ดเก็บที่ดีด้วยกันทั้งนั้น ฟังดูอาจเป็นงานที่น่าเบื่อ แต่ถ้าฝึกให้เป็นนิสัยตั้งแต่แรกก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย ส่วนใครที่ยังเก็บไฟล์ทุกชนิดทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เพลง ฯลฯ ปนกันมั่วไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน เตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องปวดหัวในการค้นหาไฟล์เมื่อต้องการใช้งานให้ดี แต่ถ้าไม่อยากก็สละเวลาจัดการจัดไฟล์ลงโฟลเดอร์ให้เรียบร้อยเสียตั้งแต่วันนี้

7. แบ็กอัพข้อมูล

ไม่มีฮาร์ดดิสก์รุ่นไหน ยี่ห้อใด ที่จะมีอายุยืนยาวอยู่กับคุณไปตลอดกาล แต่ถึงแม้ในที่สุดฮาร์ดดิสก์ของคุณจะหมดอายุขัย ก็ไม่ได้หมายความว่าข้อมูล ทั้งหมดที่เก็บอยู่ในนั้นจะสูญหายไปด้วย เพียงแต่สิ่งที่คุณควรต้องหมั่นทำเป็นกิจวัตรก็คือการแบ็กอัพไฟล์ข้อมูลสำคัญๆ เก็บไว้ในฟล๊อบปี้ดิสก์ แผ่นซีดี ดีวีดี หรืออื่นๆ ที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ตัวที่ใช้งานอยู่ หรือถ้าที่กล่าวมานั้นมันยุ่งยากหรือทำให้คุณลำบากเกินไป แนะนำให้ใช้ทัมป์ไดรฟ์ที่ปัจจุบันมีราคา แสนถูก และถ้าไม่ลำบากเงินในกระเป๋าจนเกินไปเลือกรุ่นที่จุ 128MB ขึ้นไปจะดีมาก

8. เทขยะอย่าให้เหลือไฟล์ตกค้าง

เมื่อคุณกดปุ่ม Delete เพื่อลบไฟล์ ซึ่งในทางปฏิบัติดูเหมือนว่าไฟล์ข้อมูลของคุณจะถูกลบออกไป แต่ในทางทฤษฎีนั้นไฟล์ของคุณจะยังไม่ถูกลบ ออก ไปจริงๆ เพียงแต่วินโดว์สจะทำเครื่องหมายไว้ในพื้นที่ส่วนนั้นๆ ว่าเป็นที่ว่างและเมื่อใดที่มีการเขียนไฟล์ข้อมูลก็สามารถเขียนทับตำแหน่งนั้นๆ ได้ นอกจากนี้วินโดว์สจะนำไฟล์ที่คุณลบไปใส่ไว้ในถังขยะ (Recycle Bin) เผื่อกรณีที่คุณเกิดเปลี่ยนใจหรือตัดสินใจพลาด หากใครช่างสังเกตจะพบว่า แม้จะลบไฟล์ข้อมูลไปแล้วแต่พื้นที่ว่างในอาร์ดดิสก์นั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ก็เพราะข้อมูลนั้นๆ ยังนอนรอชะตากรรมอยู่ในถังขยะ (Recycle Bin) นั่นเอง ดังนั้นหากคุณมั่นใจว่าไม่ใช้งานแล้ว หรือไม่ต้องการให้ใครมาแอบคุ้ยถังขยะเอาข้อมูลส่วนตัวของคุณไป แนะให้คลิกขวาที่ไอคอน Recycle Bin แล้วเลือกคำสั่ง Empty Recycle Bin เพื่อกำจัดขยะในถังให้สิ้นซาก

9. แบ่งพาร์ทิชันเพื่อเก็บข้อมูล

ฮาร์ดดิสก์โดยทั่วไปที่ออกมาจากโรงงานนั้นจะไม่มีการแบ่งพาร์ทิชันเอาไว้ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือซื้อ 80GB ก็จะได้ไดรฟ์ C: ความจุ 80GB มาใช้งาน แต่ถ้าจะให้ดี แนะนำให้คุณทำการแบ่งฮาร์ดดิสก์ออกเป็นส่วนๆ หรือที่เรียกว่าการแบ่งพาร์ทิชันนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์ 80GB นำมาแบ่งเป็น 2 พาร์ทิชัน พาร์ทิชันละ 40GB ซึ่งคุณก็จะได้ไดรฟ์มาใช้งาน 2 ไดรฟ์คือไดรฟ์ C: และไดรฟ์ D: ซึ่งการแบ่งพาร์ทิชันนอกจากจะช่วย ลดภาระของหัวอ่านและเพิ่มความเร็วในการทำงานของฮาร์ดดิสก์แล้ว คุณยังสามารถแยกไฟล์สำคัญๆ มาเก็บไว้ในไดรฟ์แยกต่างหากจากไดรฟ์ที่ติดตั้ง วินโดว์สซึ่งอาจโดนไวรัสเล่นงานจนเสียหายได้อีกด้วย ซึ่งการแบ่งพาร์ทิชันนั้นคุณสามารถทำได้ในขณะที่ติดตั้ง Windows XP เลย แต่ถ้าไม่ได้ทำ ก็ไม่เป็นไรเพราะปัจจุบันมีโปรแกรมสำหรับการนี้มากมายซึ่งที่นิยมใช้กันมากที่สุดได้
แก่โปรแกรม Partition Magic

10. เลือกความเร็วให้เหมาะกับงาน

วิธีการที่ผ่านมานั้นสามารถช่วยให้ฮาร์ดดิสก์ของคุณสามารถทำงานได้เร็วขึ้นได้อีกเล็
กน้อย อย่างไรก็ดี หากคุณกำลังมองหาหรือตัดสินใจซื้อฮาร์ดดิสก์ ใหม่ แนะนำให้พิจารณาเลือกรุ่นความเร็วที่เหมาะสมกับลักษณะงานที่คุณต้องการใช้งาน เช่น เลือกรุ่นที่มีความเร็วในการหมุนจานแม่เหล็ก 5,400 RPM (รอบ/นาที) ที่มีราคาถูกถ้าคุณใช้เพียงโปรแกรมทั่วๆ ไปเช่น เล่นอินเทอร์เน็ต รับ-ส่งอีเมล์ หรือพิมพ์งานด้วยโปรแกรมเวิร์ด หรือถ้างานของคุณ เกี่ยวกับการตกแต่งภาพถ่าย เล่นเกม ก็อาจเลือกซื้อรุ่น 7200 RPM หรืออาจจะเป็น 10,000 RPM เลยก็ได้หากทำงานประเภทตัดต่อวิดีโอเป็นหลัก ซึ่งฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วในการหมุนจานแม่เหล็กสูงและมีขนาดของแคชภายในมากจะช่วยเ
พิ่มความเร็วในการทำงานให้กับคุณมากยิ่งขึ้น

ที่มา http://tna.mcot.net/bookworld.php?book_id=380

วิธีการอับเดต NOD32 แบบไม่ต้องต่อเน็ต

วิธีการอับเดต NOD32 แบบไม่ต้องต่อเน็ต คับ ใครเคยโพสถามแล้วอ่ะ จำไม่ได้ เลย มาตั้ง กระทู้ ไม่รู้ ว่าเค้ารู้วิธีนี้เหรอ ยัง อ่ะ ยังไง ก็ ลองทำวิธีนี้ดู น่ะเห็นเค้า ว่าได้ ผล อ่ะ

1. ก่อนอื่นเลย ให้เราขอก็อปไฟล์อัพเดตล่าสุดจากเพื่อน ๆ ของเราที่เขาอัพเดตไว้แล้ว (รายชื่อดังลิสต์ด้านล่าง)
ก็อปจาก C:\Program Files\ESET

nod32.000
nod32.002
nod32.003
nod32.004
nod32.005
nod32.006
nod32.log

และก็อปเอาโฟลเดอร์ Logs กับ updfiles และรายชื่อไฟล์ด้านบนไปเก็บไว้ ณ ที่ใดที่หนึ่ง (เพื่อที่จะเอาไว้ใช้งานในขั้นตอนต่อไป)

2. ปิดระบบการทำงานของโปรแกรม NOD32 ให้หมด (เปิดหน้าต่าง Control Center > Quit)

3. เปิดกลับไปที่ C:\Program Files\ESET แล้วหาไฟล์ nod32krn.exe เมื่อเจอแล้วให้รีเนมไฟล์เป็นชื่ออื่น (อาจจะเติมเครื่องหมาย " _ " ไว้ เช่น "_nod32krn.exe")

4. เปิดหน้าต่าง Task Manager > Processes แล้วหาโปรเซสที่ชื่อ nod32krn.exe แล้วกด End Processes เพื่อเป็นการปิดการทำการงานของโปรแกรมนอดโดยสมบูรณ์

5. ก็อปเอาไฟล์เหล่านี้ -->
nod32.000
nod32.002
nod32.003
nod32.004
nod32.005
nod32.006
nod32.log
อันที่เราได้ก็อปเก็บไว้ในตอนแรกนั้น ไปวางที่ C:\Program Files\ESET โดยให้ก็อปทับไฟล์ตัวเก่าให้หมด
แล้วก็อปโฟลเดอร์ Logs กับ updfiles ไปวาง ณ ตำแหน่งเดียวกัน ก็อปทับไฟล์ตัวเก่าให้หมด

4. รีเนมไฟล์ _nod32krn.exe เป็น nod32krn.exe ตามเดิม

5. แล้วรีสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้น

เพียงเท่านี้ก็จะทำให้โปรแกรมอัพเดทรายชื่อไวรัสตัวใหม่ ๆ ได้แล้วครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://community.thaiware.com

วิธี update Kaspersky off line แก้ปัญหา black list

เห็นหลายๆท่านมีปัญหา กับ KIS และ KAV เลยไปอ่าน และแปลมา เผื่อท่านใดจะนำไปใช้

ในช่วงนี้ Kaspersky มันคอยบล็อก key ตลอด เลยมีคนใช้วิธี update จาก file ที่ทาง kaspersky เขาให้โหลด โดย
1. ท่านจะต้อง uninstall ก่อน
2. จากนั้น restart เครื่อง
3. install ใหม่ โดยเลือก activate later และไปเลือก update manually ( เรียก kaspersky >> Settings >> Services >> Update >> Manually )
4. activate key (อันที่เป็น black list ก็ได้ เพราะท่านยังไม่ update มันก็ยังใช้ได้) โดยท่านอาจใช้ Firewall block ก็ได้
5. จากนั้นไป Download update file ได้ที่ http://support.kaspersky.com/faq/?qid=207456193 โดยมี file ให้เลือก คือ

av-i386 จะเป็นของ KAV
av-i386&ids จะเป็นของ KIS

เช่น
av-i386-daily.zip จะเป็นของวันอาทิตย์จนถึงวันที่ท่านโหลดตัวอัพเดต
av-i386-weekly.zip จะเป็นของอาทิตย์ที่แล้ว
av-i386-cumul.zip จะเป็นตัวที่เกิน 1 อาทิตย์ก่อน
ถ้างงก็ดูตามรูปครับ


user posted image
จากนั้นให้ท่านทำตามภาพนี้ เพื่ออัพเดต
user posted image
Credit

ถ้ายังติด blacklist ก็ลองใส่ activation code ดูนะครับ ต้องเอา active key ของเก่าออกก่อนครับ ถึงจะ active ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก http://community.thaiware.com

Oct 27, 2009

การแก้ไข ไวรัส จอมืด จอดำ มีแต่ลูกศร เมาส์

อาการนี้กำลังฮิตเป็นกันเลย เลยมาเสนอวิธีแก้ไขให้
จากการตรวจสอบพบว่าไวรัสตัวนี้ จะไปแก้ registry ในคีย์ต่อไปนี้

HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Microsoft
\Windows NT\CurrentVersion\Drivers32


โดยเพิ่มค่าชื่อ midi9 (อาจเป็นชื่ออื่น แต่ตอนนี้เจอแค่นี้ )เข้าไป

วิธีแก้คือ บูตเครื่องด้วย windows pe หรือ bart pe เข้าไปลบค่า ดังกล่าวซะ

มาเริ่มกันเลยดีกว่า

ขั้นแรกบูตเข้า hiren



เลือก start mini windows xp


เข้าไปแล้วไปที่ start -> run จากนั้นพิมพ์ regedit แล้ว OK

จากนั้นไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE

ไปที่เมนู File -> load hive

ไปที่ c:\windows\system32\config แล้วเลือกไฟล์ชื่อ software


ตั้งชื่อเป็นอะไรก็ได้ ในที่นี้ตั้งเป็น x


จากนั้นไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\x\Microsoft\Windows NT\CurrentVersion\Drivers32

หาค่าชื่อ midi9 สังเกต ดูว่าค่ามันจะแปลกๆ เช่น c:\windows\1.tmp หรือบางท่านอาจเป็นชื่อไฟล์แปลกๆ กว่านี้


ให้ทำการลบ ค่า midi9 นี้ซะ

จากนั้น ให้รีบูตเข้า windows ตามปกติ

Oct 26, 2009

Razer Moray+ หูฟังดีๆที่เสียบได้ทุกที่


เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ แบรนด์ Razer ชาวเกมเมอร์ต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน บางคนอาจมีผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้อยู่ในครอบครองบ้างก็เป็นได้ Razer ส่วนใหญ่จะผลิตอุปกรณ์ประเภท เม้าส์หรือคีย์บอร์ดที่เหมาะเจาะกับเกมเมอร์ออกมา แต่คราวนี้หลายๆคนอาจได้ควักเงินในกระเป๋าออกมาซื้ออีกแน่ เพราะดูจากแพคเกจแล้วน่าเอามาอยู่ในครอบครองเหลือเกิน มันคือ"หูฟัง"สิ่งที่เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมขึ้นนั่นเอง มันไม่ใช่หูฟังที่ธรรมดาๆซะที่ไหนล่ะ แต่มันเป็นหูฟังอเนกประสงค์จริงๆไม่ใช่แค่ใส่เล่นเกมส์ แต่ตัวพลัสนี้มันยังสามารถใช้กับ Apple I Phone เพระมีแถม Inline Microphone มาให้ด้วย และใช้กับ PSPและNintendo DS ได้อีก ราคาประมาณ 2,000 บาทครับมีตังค์ทอนให้ด้วย ฮ่าๆ

แหล่งที่มา:
http://www.vmodtech.com

Microsoft เตรียมปล่อยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส "Morro" ฟรี!


เร็วๆ นี้ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เตรียมพร้อมให้บริการแอนตี้ไวรัสฟรี! สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีทุกเครื่องที่ใช้วินโดวส์ถูกกฎหมาย ซึ่งนั้นอาจทำให้ค่ายแอนตี้ไวรัสยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างไซแมนเทค (Symantec) และแมคอาฟี (McAfee) ต้องสูญเสียลูกค้ารายย่อยไปก็ได้

ไมโครซอฟท์เตรียมปล่อยให้บริการ "Morro" แอนตี้ไวรัสเวอร์ชันล่าสุด ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพนักงาน และคาดว่าเวอร์ชันดังกล่าวจะผ่านการทดสอบจนสามารถเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปร่วมทดสอบในนาม Morro เบต้าเวอร์ชัน (beta) ในเร็ววันนี้

โดยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส Morro จะเปิดให้ลูกค้าไมโครซอฟท์ทุกคนดาวน์โหลดฟรีได้ที่เว็บไซต์ของ ไมโครซอฟท์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลกรอบเวลาในการให้บริการที่แน่นอนได้ในขณะนี้

Morro เป็นชื่อรหัสบริการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของไมโครซอฟท์ ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอันดับหนึ่งของโลก นักลงทุนหวั่นเกรงว่าการให้บริการ Morro ฟรีของไมโครซอฟท์จะส่งผลกระทบต่อยอดขายผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัสเบอร์หนึ่งและ สองอย่างไซแมนเทคและแมคอาฟี รวมถึงค่ายแอนตี้ไวรัสรายอื่นๆ ซึ่งมีรายได้หลักจากการจำหน่ายซอฟต์แวร์กันภัยร้ายจากเหล่านักโจรกรรมข้อมูล ซึ่งจำเป็นต้องติดตั้งในเครื่องพีซีทุกเครื่อง

ไมโครซอฟท์เคยให้ข้อมูลว่า Morro จะให้บริการฟีเจอร์พื้นฐานเพื่อให้คอมพิวเตอร์พีซีมี"ภูมิคุ้มกัน"สำหรับ ต่อสู้กับไวรัสซึ่งแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งหลายฝ่ายนำไปเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์พื้นฐานของไซแมนเทคและแมคอาฟี สำหรับผู้บริโภคโลว์เอนด์ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 40 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,400 บาทต่อปี

แน่นอนว่า..ทันทีที่ข่าวความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์แพร่กระจายออกไป มูลค่าหุ้นของไซแมนเทคดีดตัวลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ที่ตลาดแนสแดค เช่นเดียวกับหุ้นแมคอาฟีที่ลดลง 1.3 เปอร์เซ็นต์ ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สวนทางกับมูลค่าหุ้นไมโครซอฟท์ที่เพิ่มขึ้น 2.1 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของไซแมนเทค และแมคอาฟีไม่ได้มาจากกลุ่มโลว์เอนด์ แต่มาจากชุดรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันภัยฟิชชิ่ง หรือการลวงให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลความลับลงในเว็บไซต์ปลอม ด้วยการให้ฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูล ไฟร์วอลล์ ปกป้องรหัสผ่าน และสำรองข้อมูล

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกในวงการแอนตี้ไวรัสของไมโครซอฟท์ ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยส่ง "OneCare" ซึ่งครั้งหนึ่งไมโครซอฟท์เคยให้บริการแบบคิดค่าใช้จ่ายแต่ไม่เป็น ที่นิยม โดย Morro นั้นถูกบรรจุเป็นหนึ่งในแผนของ OneCare ซึ่งในขณะนั้นมีการกำหนดกรอบเวลาไว้ที่ปลายปี 2009

เชื่อว่านักวิเคราะห์ทั้งหลายกำลังรอพบกับ Morro เวอร์ชันทดลอง เพื่อจะได้รับรู้ฟีเจอรที่แท้จริงว่าจะสามารถแข่งขันกับซอฟต์แวร์แอนตี้ ไวรัสในตลาดขณะนี้ได้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะพัฒนาให้ Morro สามารถป้องกันซอฟต์แวร์อันตรายได้หลายรูปแบบ ทั้งไวรัส สปายแวร์ รูทคิตส์ และโทรจัน

แน่นอนว่าตัวแทนทั้งไซแมนเทคและแมคอาฟีต่างออกมาแสดงความเห็นว่า Morro ไม่ใช่ภัยคุกคามที่สามารถเขย่าบัลลังก์ในตลาดแอนตี้ไวรัสได้ง่ายๆ เจนิซ ชาฟฟิน (Janice Chaffin) ประธานฝ่ายลูกค้าคอนซูเมอร์ของไซแมนเทคถึงกับบอกว่า Morro เป็นร่างทรงของ OneCare ที่ไมโครซอฟท์จะโละออกจากร้าน โดยบอกว่าชุดรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบคือสิ่งที่ผู้บริโภค ทุกวันนี้ต้องการ เพื่อการถูกปกป้องแบบครบวงจร

ฝ่ายจอริส เอเวอร์ส (Joris Evers) ประชาสัมพันธ์แมคอาฟีกล่าวในเชิงว่าแมคอาฟีสามารถยืนหยัดได้สวยงามท่ามกลาง ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีหลากชนิดอยู่แล้ว หากเพิ่ม Morro ขึ้นมาอีกรายก็คงไม่ต่างกัน

สำหรับบริษัทเทรนด์ไมโคร (Trend Micro) บริษัทแอนตี้ไวรัสอันดับ 3 ของสหรัฐฯ นั้นไม่มีรายงานความคิดเห็นจากประชาสัมพันธ์เทรนด์ไมโคร

via: Microsoft

แหล่งที่มา:
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9520000066513

Oct 19, 2009

100 คำสั่งบนแป้นคีย์บอร์ด


เพื่อนๆ คงใช้เม้าส์ในการกด เพื่อเลือกฟังก์ชั่นต่างบนจอคอมจนเคยชินกันแล้วใช่มะ จนบางคนนั้นอาจลืม หรือไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าแป้นคีย์บอร์ด ที่เดี๋ยวนี้เราไว้ใช้แค่พิมพ์นั้น สามารถสั่งการใช้งานของคอมพิวเตอร์ได้เหมือนกัน งั้นเราลองมาทบทวนความทรงจำ ในการใช้คำสั่งบนคีย์บอร์ดกันดีกว่า...

100 คำสั่งบนแป้นคีย์บอร์ดเตือนคำทรงจำ....

CTRL+C --คัดลอก

CTRL+X --ตัด/ย้าย

CTRL+V --วาง (ใช้คู่กับคำสั่งคัดลอก/ตัด)

CTRL+Z --ยกเลิกการทำงานครั้งล่าสุด

DELETE --ลบโดยไปพักที่ถังขยะ

SHIFT+DELETE --ลบโดยไม่ต้องพักที่ถังขยะ

CTRL กดค้างไว้+คลิกเลือกไฟล์ --เป็นการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง

CTRL+SHIFT กดค้างไว้ แล้วคลิกที่ไฟล์แรก และไฟล์สุดท้าย --จะเป็นการเลือกตั้งแต่ ไฟล์แรกถึงไฟล์สุดท้ายทั้งหมด

F2 --เปลี่ยนชื่อแฟ้ม

CTRL+RIGHT ARROW --ไปยังคำต่อไป (ด้านขวามือ)

CTRL+LEFT ARROW --ไปยังคำก่อนหน้า (ด้านซ้ายมือ)

CTRL+DOWN ARROW --ไปยังย่อหน้าต่อไป (ลงล่าง)

CTRL+UP ARROW --ไปยังย่อหน้าต่อไป (ขึ้นบน)

CTRL+SHIFT --ทำ Highlight ทั้งบรรทัด

SHIFT+ปุ่มลูกศร --ทำ Highlight เฉพาะส่วนที่เลือก

CTRL+A --เลือกทั้งหมด

F3 --ค้นหา

ALT+ENTER --ดู properties

ALT+F4 --ปิดโปรแกรมที่ใช้งานในปัจจุบัน

ALT+SPACEBAR --เปิด shortcut menu ของหน้าจอที่ใช้งานอยู่

CTRL+F4 --ปิดโปรแกรมที่ใช้อยู่ทั้งหมด

ALT+TAB --สลับหน้าจอระหว่างโปรแกรมที่ 1 ไปโปรแกรมที่ 2 3 4

ALT+ESC (Cycle through items in the order that they had been opened)

F6 key (Cycle through the screen elements in a window or on the desktop)

F4 --แสดงรายการใน Address bar

SHIFT+F10 --เหมือนการคลิกขวาที่เม้าส์

CTRL+ESC --เหมือนการคลิกที่ปุ่ม Start

ALT+Underlined letter in a menu name (Display the corresponding menu)

Underlined letter in a command name on an open menu (Perform the corresponding command)

F10 key (Activate the menu bar in the active program)

RIGHT ARROW --เปิดเมนูถัดไปทางขวาหรือเปิดเมนูย่อยทางขวา

LEFT ARROW --เปิดเมนูถัดไปทางซ้ายหรือเปิดเมนูย่อยทางซ้าย

F5 key --รีเฟรชหน้าจอปัจจุบัน

BACKSPACE --แสดงโฟลเดอร์ที่อยู่เหนือขึ้นไป 1 ระดับ

ESC --ยกเลิก

SHIFT เมื่อใส่แผ่น CD-ROM --หยุดยั้งการเปิดแผ่นแบบอัตโนมัติ

Dialog Box Keyboard Shortcuts /เกี่ยวกับไดอะล็อก

CTRL+TAB --ไปในแถบต่อไป

CTRL+SHIFT+TAB --ไปในแถบก่อนหน้า

TAB --เลื่อนไปยังส่วนต่อไป

SHIFT+TAB --เลื่อนไปยังส่วนก่อนหน้า

ALT+Underlined letter (Perform the corresponding command or select the corresponding option)

ENTER --ตกลง

SPACEBAR --เลือก/ไม่เลือกใน check box

Arrow keys (Select a button if the active option is a group of option buttons)

F1 key --Help

F4 key --แสดงรายการที่ active อยู่

BACKSPACE --แสดงโฟลเดอร์ที่อยู่เหนือขึ้นไป 1 ระดับ

Microsoft Natural Keyboard Shortcuts /ทั่วไป ๆ

Windows Logo --แสดง/ซ่อน Start menu

Windows Logo+BREAK --แสดง System Properties

Windows Logo+D --แสดงหน้าจอ desktop

Windows Logo+M --ย่อหน้าต่างงานทั้หมด

Windows Logo+SHIFT+M --โชว์หน้าต่างงานที่เราย่อไว้ (ยกเลิกการย่อหน้าต่าง)

Windows Logo+E --เปิด My computer

Windows Logo+F,CTRL+Windows Logo+F --ค้นหา

Windows Logo+F1 --Help

Windows Logo+ L --ล็อค keyboard

Windows Logo+R --Run

Windows Logo+U --Utility Manager

เราหวังว่าคำสั่งบนคีย์บอร์ดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะค่ะ เผื่อว่าวันไหนเม้าส์ของเพื่อนๆ ใช้งานไม่ได้

แหล่งที่มา:
http://www.pantown.com/data/36/board1/12-20030805154113.jpg

คำเตือน!! การส่งต่อ Forward Mail อาจทำคุณผิดกฎหมาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์


เพื่อนๆ คงเคยได้รับ Forward Mail ที่ส่งต่อๆ กันมาจากทั่วสาระทิศกันบ้างใช่มั้ย... แล้วเพื่อนๆ ได้เคยส่งต่อรึป่าว?? ซึ่งทุกครั้งที่เพื่อนๆ รับ-ส่ง อีเมล์ เหล่านั้น เคยได้ลองใช้วิจารณญาณ หรือไม่ว่า ข้อความ หรือ ภาพ เหล่านั้น ที่เพื่อนๆ ได้รับมา แล้วกำลังจะส่งต่อนั้น จะเท็จ จะจริง หรือไม่แค่ไหน ซึ่งข้อความเหล่านั้น อาจเป็นเหตุทำให้ เพื่อนๆ ทำผิดกฎหมาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการก็ได้ วันนี้เราเลยมาขอเตือนเพื่อนๆ ที่ชอบส่ง Forward Mail ให้รู้ถึงโทษกัน...

ถึงเพื่อนๆ ที่กำลังอ่านอยู่ นั้นชอบที่จะส่ง Forward Mail ที่ได้มา ควรที่จะใช้วิจารณญาณด้วยว่า ข้อความ หรือ ภาพ นั้น จะเท็จ จะจริง หรือไม่ อย่างไรก็แล้วแต่ การรับ-ส่ง ของเพื่อนๆ นั้นอาจส่งผลกระทบเหล่านี้ 1. อาจก่อความเสียหายให้ ผู้หนึ่งผู้ใดหรือไม่ 2. อาจสร้างความตื่นตระหนก ตกใจกลัว แก่คนทั่วไปหรือไม่ 3. อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ สถาบัน หรือเป็นความผิดด้านการก่อการร้าย หรือไม่ 4. มีเนื้อหา ภาพ อันเป็นลามก หรือไม่

หากเพื่อนๆ คิดว่าใช่ แต่ก็ยัง เผยแพร่ ส่งต่อ (Forward) ยังไปพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติมิตร ด้วยกลัวว่า บุคคลเหล่านั้น อาจตกข่าว และท่านเองอาจคิด ภูมิใจ ไปว่า เป็นคนแรกๆ ที่รู้ข่าว และเอื้อเฟื้อต่อ ญาติมิตร หรือท่านอาจนำ ข้อความ หรือ ภาพ ที่ได้รับมานั้น นำไปเผยแพร่ลงใน เว็บบอร์ด ในเว็บไซต์ต่างๆ นั้น

เพื่อนๆ ทราบ หรือไม่ว่า เพื่อนๆ อาจทำผิดกฎหมาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการ และด้วยความไม่รู้ทาง เทคนิค อาจนำภัย ไปสู่ พรรคพวก เพื่อนฝูง ที่ได้ส่งข้อความ ภาพ นั้น มายังท่านด้วย เพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าง่ายว่า ใครส่งต่อไปหาใคร ใครได้รับแล้วส่งต่อไปหาใครต่อ.... อาจต้องรับโทษ จำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

" พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550" ตามกฎหมายใหม่ ได้กำหนดโทษเกี่ยวกับ การนำเข้า/เผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม ไว้ดังนี้

มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

* นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

* นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน

* นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการ ก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

* นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้

* เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม 1,2,3 หรือ 4

ดังนั้น ทุกครั้งที่เพื่อนๆ ได้รับ อีเมล์ ข่าว เนื้อความ หรือ ภาพ มาจากอินเทอร์เน็ต ก่อนที่เพื่อนๆ จะเผยแพร่ ส่งต่อ (Forward) ยังไปพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติมิตร หรือท่านจะนำ ข้อความ หรือ ภาพ ที่ได้รับมานั้น ไปเผยแพร่ลงใน เว็บบอร์ด ในเว็บไซต์ต่างๆ นั้น ควรที่จะใช้วิจารณญาณ ก่อนด้วยว่า ไม่ว่า ข้อความ หรือ ภาพ นั้น จะเท็จ จะจริง หรือไม่อย่างไรก็ตาม แล้วสิ่งเหล่านี้ จะไม่ส่งผลกระทบถึงใครให้เดือนร้อน ดัง 4 ข้อนี้ หรือไม่ 1. อาจก่อความเสียหายให้ ผู้หนึ่งผู้ใดหรือไม่ 2. อาจสร้างความตื่นตระหนก ตกใจกลัว แก่คนทั่วไปหรือไม่ 3. อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ สถาบัน หรือเป็นความผิดด้านการก่อการร้าย หรือไม่ 4. มี เนื้อหา/ภาพ อันเป็นลามก หรือไม่

ถ้าคิดแล้ว เห็นท่าจะไม่ค่อยดี ก็อย่า Forward ไปเลยนะค่ะ ไม่เช่นนั้นแล้ว เพื่อนๆ และพรรคพวกเพื่อนฝูง อาจกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการ ตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (5)

แหล่งที่มา:
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/

พบกับวิธี "เปลี่ยนชื่อไฟล์นับร้อย-นับพัน" เพียงแค่คลิกเดียว


เพื่อนๆ เคยเซ็งกับการที่ต้องมานั่งเปลี่ยนไฟล์ชื่อที่ซ้ำๆ กันบ้างมั้ย โดยเฉพาะไฟล์ที่ได้จากกล้องดิจิตอล ที่จะมีชื่อ ขึ้นต้นเหมือนกัน และตามด้วยตัวเลขเช่น กล้องโซนี่ของเราจะขึ้นต้นด้วย "DSC" ตามด้วย "000001.jpg" เช่น DSC00001.jpg, DSC00002.jpg, DSC00003.jpg,... เป็นต้น

ยิ่งถ้าหากเราต้องการ Copy ข้อมูลจากกล้องเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ และต้องการเปลี่ยนชื่อไฟล์ ก็ต้องมานั่งเปลี่ยนทีละไฟล์ ทำให้ต้องเสียเวลามั๊กมาก.. เพราะแต่ครั้งที่เราถ่ายนั้นไม่ได้มีแค่ไฟล์ 2 ไฟล์ ซะเมื่อไร บ้างครั้งอาจมีเป็นนับร้อยๆ ไฟล์จากการถ่ายเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ถ้ามีการ Copy ข้อมูลลงในโฟลเดอร์เดียวกัน ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะถ้าไฟล์ชื่อเดียวกันก็อาจถูกทับกันไปหมด วันนี้เราเลยมีเทคนิคดีๆ มาบอกกัน กับการเปลี่ยนชื่อไฟล์นับร้อย นับพันในคลิกเดียว โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

1. Copy ไฟล์ที่ต้องการทั้งหมดลงในเครื่องคอมพิวเตอร์

2. เปิดโปรแกรม Windows Explorer

3. คลุมชื่อไฟล์ทั้งหมดที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ

4. คลิกขวา เลือกคำสั่ง Rename

5. พิมพ์ชื่อไฟล์ใหม่ที่ต้องการ (โปรแกรมจะเลือกให้เปลี่ยนเพียงไฟล์เดียว) จากภาพ ผมมีการเปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น My Photo.jpg

6. กดปุ่ม Enter

7. โปรแกรมจะเปลี่ยนชื่อไฟล์ใหม่ และเรียงหมายเลขให้ด้วย

แหล่งที่มา:
http://www.it-guides.com/techno/tip0043.html

Oct 8, 2009

เทคนิคดีๆ ของการใช้ "Windows" กับลูกเล่นที่คุณอาจยังไม่รู้.


หลักการทำงานของ Windows นั้นหลายๆ คนคงรู้จักกันดี แต่อาจมีบ้างอย่างที่เพื่อนๆ อาจยังไม่รู้เกี่ยวกับการใช้งาน Windows หรือรู้แล้วอาจจะลืมก็ได้ วันนี้เราเลยนำเทคนิคดีๆ เกี่ยวกับการใช้ Windows มาฝากกัน.

30 เทคนิคดีๆ ของการใช้ "Windows"

1. ในขณะที่คุณกำลังจะ Restart เครื่องใหม่ ก่อนที่จะกดปุ่ม OK ให้เพื่อนๆ กด Shift ค้างไว้ จะทำให้เพื่อนๆ Restart ได้เร็วขึ้น

2. ในบาง Web Site หากเพื่อนๆ กด Ctrl ค้างไว้ และเลื่อน Scroll ที่ Mouse จะทำให้ตัวอักษรของ Web Site นั้นใหญ่ขึ้น

3. หากกดปุ่ม Refresh หรือ F5 แล้วยังเป็นข้อมูลเดิม ลองกด Ctrl + F5 รับรองจะได้ข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดแน่ๆ

4. เพื่อนๆ สามารถเปิดไฟล์ Tips.txt ขึ้นมาเพื่ออ่านเทคนิคต่างๆ ได้ ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่ใน c:\windows ของเพื่อนๆ

5. ในระหว่างที่เพื่อนๆ กำหลังใช้งาน IE อยู่นั้น สามารถกดปุ่ม F4 เพื่อเป็นการเปิดดู URL List ในช่อง Address ได้เลย

6. การกดปุ่ม Esc ระหว่างการใช้ IE จะทำให้ IE ของเพื่อนๆ นั้นหยุดโหลดได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Stop

7. ระหว่างการใช้ IE สามารถกดปุ่ม Alt + D หรือ Ctrl + Tab เพื่อเข้า Address bar อย่างเร็วได้

8. เพื่อนๆ สามารถเพิ่มความเร็วให้กับ Internet ได้โดยทำการถอดสายเครื่องโทรศัพท์ ที่มีการต่อพ่วงอยู่กับสายที่ใช้ต่อ Internet ออก

9. เพื่อนๆ สามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า welcome กด Enter เพื่อเปิดหน้าต่างต้อนรับของ Windows ได้

10. ที่ Notepad หรือ ICQ หากคุณลืมเปลี่ยน Mode ภาษา ให้กดปุ่ม Ctrl + Back Space เพื่อแก้คำที่พิมพ์ผิดไปแล้ว

11. เพื่อนๆ สามารถ เปิด Folder Desktop อย่างรวดเร็ว โดย Start -> Run พิมพ์จุด (.) ลงไปแล้วกด Enter

12. ใน IE สามารถกด Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้า Page ลงได้ ส่วนเลื่อนขึ้นคือ Shift + Space Bar

13. ใน Windows เพื่อนๆ ไม่สามารถ สร้าง Folder ที่ชื่อ \"con\" ได้

14. ใน IE ที่ช่อง Address ปุ่ม Ctrl+Enter สามารถช่วยเพื่อนๆ ในการพิมพ์ URL ได้เร็วยิ่งขึ้น

15. การกด Ctrl ค้างเอาไว้ ตอนเวลา BOOT เครื่อง จะทำให้เพื่อนๆ ไม่พลาด Startup Menu

16. เพื่อนๆ สามารถปิดนาฬิกาที่ Taskbar ได้ โดยคลิกขวาที่ Task bar > Properties > เอาเครื่องหมาย Show Click ออก

17. หากคุณกด F11 ใน Windows Explorer จะช่วยให้มีการทำงานที่สะดวกขึ้น

18. ใน ICQ การส่ง Message หากเพื่อนๆ กด Ctrl+Enter จะสะดวก กว่าการ Click Mouse ที่ปุ่ม send

19. เพื่อนๆ สามารถกด F2 เพื่อ ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ Icon ต่างๆ ได้

20. การกด F5 ใน NotePad จะเป็นการแทรก เวลา และวันที่ปัจจุบัน

21. การกด Windows + E จะเป็นเปิด Windows Explorer ขึ้นมา

22. เปิด System Properties อย่างรวดเร็วคือการกด Window + Pause Break

23. การย่อยทุกๆ หน้าต่างที่เปิดใช้งาน ให้ยุบไปให้หมด คือการกด Window + D ถ้าจะขยายคืนมาอีก ให้กดซ้ำ

24. การเคาะวรรคในโปรแกรม Dreamweaver คือ Shift + Ctrl + Space Bar ส่วนการเว้นบรรทัดคือ Shift + Enter

25. การลบไฟล์แบบ ไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin คือการกด Shift + Delete

26. การกด Shift ค้างไว้ เวลาใส่แผ่น CD-Rom จะเป็นการไม่ให้มันเปิด Autorun ของแผ่น CD-Rom นั้นขึ้นมา

27. การ Restart เครื่องอย่างเร็ว คือไปที่ Start -> Shut Down... -> Restart จากนั้น ก่อนที่จะ OK ให้กด Shift ค้างเอาไว้

28. ในระหว่างใช้ Browser เพื่อนๆ สามารถกดปุ่ม Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าลง และ Shift + Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าขึ้นได้

29. กด Shift + คลิก จะเป็นการเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้อง back กลับ

30. เพื่อนๆ สามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า hwinfo /ui กด Enter เพื่อดูรายงานต่างๆ ของ HardWare

แหล่งที่มา:
http://drealingdrug.exteen.com/20080614/microsoft-windows

12 วิธีแก้ปัญหา Windows XP บูตช้า


เพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่กำลังใช้ Windows XP อยู่อะป่าวคะ แล้วเคยประสบพบเจอปัญหาที่ Windows XP บูตช้ามากเหมือนเราบ้างมั้ยละเนี่ย หากเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่เคยเจอกับปัญหาเดี๋ยวกันละก่อ วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ อีกแล้ว มาฝากให้ได้ลองทดสอบกัน กับเทคนิคระดับมืออาชีพต่อไปนี้ ถึงแม้ว่าะดูซับซ้อนไปบ้างแต่รับรองว่าได้ผลอย่างแน่นอน ลองมาดูกันเลยค่ะ วิธีแก้ปัญหา Windows XP บูตช้า

1. เปิดโปรแกรม Notepad (Start -> Programs -> Accessories -> Notepad)

2. พิมพ์ข้อความ "del c:\windows\prefetch\ntosboot-*.* /q" (ไม่ต้องพิมพ์ เครื่องหมายคำพูด) แล้ว Save เป็นชื่อไฟล์ ntosboot.bat ไว้ในไดเรกทอรี C:\

3. คลิกปุ่ม Start -> Run พิมพ์คำสั่ง gpedit.msc แล้ว Enter

4. คลิกเลือกออปชัน Computer Configuration -> Windows Settings -> Scripts (Startup/Shutdown) จากนั้นดับเบิลคลิกที่คำว่า Shutdown ที่ปรากฏ อยู่ในหน้าต่างด้านขวามือ

5. ที่หน้าต่างที่ปรากฏขึ้น คลิกปุ่ม Add –> Browse ตามด้วยการระบุที่อยู่ของไฟล์ ntosboot.bat ซึ่งก็คือ C:\ แล้วคลิกปุ่ม Open

6. คลิกปุ่ม OK -> Apply -> OK เพื่อปิดหน้าต่าง

7. คลิกปุ่ม Start -> Run พิมพ์คำสั่ง devmgmt.msc แล้ว Enter

8. ดับเบิลคลิกที่รายการ IDE ATA/ATAPI controllers

9. คลิกขวาที่รายการย่อย "Primary IDE Channel" เลือกคำสั่ง Properties

10. คลิกแท็บ Advanced Settings เปลี่ยนออปชันในหัวข้อ Device Type จาก autodetect ให้เป็น none แล้วคลิก OK

11. คลิกขวาที่รายการย่อย "Secondary IDE channel" เลือกคำสั่ง Properties แล้วทำซ้ำขั้นตอนที่ 10

12. รีสตาร์ทเครื่องใหม่อีกครั้ง ซึ่งการบูตเครื่องครั้งใหม่จะเร็วขึ้นกว่าเดิม

เพียงเท่านี้ Windows XP ที่เคยช้าเป็น "เต่า" ก็พุ่งปู๊ด...เป็นฉลามติดจรวดแล้ว... งัยล่ะคะกับเทคนิคดีๆ ที่เรานำมาฝากชาว FukDuk.

แหล่งที่มา:
http://board.mercigod.com/index.php?topic=2093.0