ปัญหา Blue Screen นั้นส่วนมากนั้นจะเกิดจากการผิดพลาดของดีไวซ์ไดรเวอร์ หรือการทำงานผิดพลาดอันเนื่องจากมาจากไวรัส เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Blue Screen ควรหมั่นแบ็กอัพค่าคอนฟิกและค่ารีจิสทรีของวินโดวส์อยู่เสมอ เครื่องมือที่ดีที่สุดก็คือ System Restore ดังนั้นถ้าคุณไม่แน่ใจเรื่องของระบบก่อนลงโปรแกรมหรือไดรเวอร์ใดๆ ก็ตามให้คุณสั่ง System Restore เสียก่อน เผื่อว่าเกิดปัญหา Blue Screen คุณยังสามารถเข้าเซฟโหมดแล้วสั่งให้โรลแบ็กระบบกลับมาได้
Oct 27, 2009
การแก้ไข ไวรัส จอมืด จอดำ มีแต่ลูกศร เมาส์
จากการตรวจสอบพบว่าไวรัสตัวนี้ จะไปแก้ registry ในคีย์ต่อไปนี้
HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Microsoft
\Windows NT\CurrentVersion\Drivers32
โดยเพิ่มค่าชื่อ midi9 (อาจเป็นชื่ออื่น แต่ตอนนี้เจอแค่นี้ )เข้าไป
วิธีแก้คือ บูตเครื่องด้วย windows pe หรือ bart pe เข้าไปลบค่า ดังกล่าวซะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ขั้นแรกบูตเข้า hiren
เลือก start mini windows xp
เข้าไปแล้วไปที่ start -> run จากนั้นพิมพ์ regedit แล้ว OK
จากนั้นไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE
ไปที่เมนู File -> load hive
ไปที่ c:\windows\system32\config แล้วเลือกไฟล์ชื่อ software
ตั้งชื่อเป็นอะไรก็ได้ ในที่นี้ตั้งเป็น x
จากนั้นไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\x\Microsoft\Windows NT\CurrentVersion\Drivers32
หาค่าชื่อ midi9 สังเกต ดูว่าค่ามันจะแปลกๆ เช่น c:\windows\1.tmp หรือบางท่านอาจเป็นชื่อไฟล์แปลกๆ กว่านี้
ให้ทำการลบ ค่า midi9 นี้ซะ
จากนั้น ให้รีบูตเข้า windows ตามปกติ
Oct 26, 2009
Razer Moray+ หูฟังดีๆที่เสียบได้ทุกที่
เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ แบรนด์ Razer ชาวเกมเมอร์ต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน บางคนอาจมีผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้อยู่ในครอบครองบ้างก็เป็นได้ Razer ส่วนใหญ่จะผลิตอุปกรณ์ประเภท เม้าส์หรือคีย์บอร์ดที่เหมาะเจาะกับเกมเมอร์ออกมา แต่คราวนี้หลายๆคนอาจได้ควักเงินในกระเป๋าออกมาซื้ออีกแน่ เพราะดูจากแพคเกจแล้วน่าเอามาอยู่ในครอบครองเหลือเกิน มันคือ"หูฟัง"สิ่งที่เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมขึ้นนั่นเอง มันไม่ใช่หูฟังที่ธรรมดาๆซะที่ไหนล่ะ แต่มันเป็นหูฟังอเนกประสงค์จริงๆไม่ใช่แค่ใส่เล่นเกมส์ แต่ตัวพลัสนี้มันยังสามารถใช้กับ Apple I Phone เพระมีแถม Inline Microphone มาให้ด้วย และใช้กับ PSPและNintendo DS ได้อีก ราคาประมาณ 2,000 บาทครับมีตังค์ทอนให้ด้วย ฮ่าๆ
Microsoft เตรียมปล่อยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส "Morro" ฟรี!
เร็วๆ นี้ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เตรียมพร้อมให้บริการแอนตี้ไวรัสฟรี! สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีทุกเครื่องที่ใช้วินโดวส์ถูกกฎหมาย ซึ่งนั้นอาจทำให้ค่ายแอนตี้ไวรัสยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างไซแมนเทค (Symantec) และแมคอาฟี (McAfee) ต้องสูญเสียลูกค้ารายย่อยไปก็ได้
ไมโครซอฟท์เตรียมปล่อยให้บริการ "Morro" แอนตี้ไวรัสเวอร์ชันล่าสุด ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพนักงาน และคาดว่าเวอร์ชันดังกล่าวจะผ่านการทดสอบจนสามารถเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปร่วมทดสอบในนาม Morro เบต้าเวอร์ชัน (beta) ในเร็ววันนี้
โดยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส Morro จะเปิดให้ลูกค้าไมโครซอฟท์ทุกคนดาวน์โหลดฟรีได้ที่เว็บไซต์ของ ไมโครซอฟท์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลกรอบเวลาในการให้บริการที่แน่นอนได้ในขณะนี้
Morro เป็นชื่อรหัสบริการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของไมโครซอฟท์ ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอันดับหนึ่งของโลก นักลงทุนหวั่นเกรงว่าการให้บริการ Morro ฟรีของไมโครซอฟท์จะส่งผลกระทบต่อยอดขายผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัสเบอร์หนึ่งและ สองอย่างไซแมนเทคและแมคอาฟี รวมถึงค่ายแอนตี้ไวรัสรายอื่นๆ ซึ่งมีรายได้หลักจากการจำหน่ายซอฟต์แวร์กันภัยร้ายจากเหล่านักโจรกรรมข้อมูล ซึ่งจำเป็นต้องติดตั้งในเครื่องพีซีทุกเครื่อง
ไมโครซอฟท์เคยให้ข้อมูลว่า Morro จะให้บริการฟีเจอร์พื้นฐานเพื่อให้คอมพิวเตอร์พีซีมี"ภูมิคุ้มกัน"สำหรับ ต่อสู้กับไวรัสซึ่งแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งหลายฝ่ายนำไปเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์พื้นฐานของไซแมนเทคและแมคอาฟี สำหรับผู้บริโภคโลว์เอนด์ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 40 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,400 บาทต่อปี
แน่นอนว่า..ทันทีที่ข่าวความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์แพร่กระจายออกไป มูลค่าหุ้นของไซแมนเทคดีดตัวลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ที่ตลาดแนสแดค เช่นเดียวกับหุ้นแมคอาฟีที่ลดลง 1.3 เปอร์เซ็นต์ ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สวนทางกับมูลค่าหุ้นไมโครซอฟท์ที่เพิ่มขึ้น 2.1 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของไซแมนเทค และแมคอาฟีไม่ได้มาจากกลุ่มโลว์เอนด์ แต่มาจากชุดรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันภัยฟิชชิ่ง หรือการลวงให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลความลับลงในเว็บไซต์ปลอม ด้วยการให้ฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูล ไฟร์วอลล์ ปกป้องรหัสผ่าน และสำรองข้อมูล
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกในวงการแอนตี้ไวรัสของไมโครซอฟท์ ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยส่ง "OneCare" ซึ่งครั้งหนึ่งไมโครซอฟท์เคยให้บริการแบบคิดค่าใช้จ่ายแต่ไม่เป็น ที่นิยม โดย Morro นั้นถูกบรรจุเป็นหนึ่งในแผนของ OneCare ซึ่งในขณะนั้นมีการกำหนดกรอบเวลาไว้ที่ปลายปี 2009
เชื่อว่านักวิเคราะห์ทั้งหลายกำลังรอพบกับ Morro เวอร์ชันทดลอง เพื่อจะได้รับรู้ฟีเจอรที่แท้จริงว่าจะสามารถแข่งขันกับซอฟต์แวร์แอนตี้ ไวรัสในตลาดขณะนี้ได้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะพัฒนาให้ Morro สามารถป้องกันซอฟต์แวร์อันตรายได้หลายรูปแบบ ทั้งไวรัส สปายแวร์ รูทคิตส์ และโทรจัน
แน่นอนว่าตัวแทนทั้งไซแมนเทคและแมคอาฟีต่างออกมาแสดงความเห็นว่า Morro ไม่ใช่ภัยคุกคามที่สามารถเขย่าบัลลังก์ในตลาดแอนตี้ไวรัสได้ง่ายๆ เจนิซ ชาฟฟิน (Janice Chaffin) ประธานฝ่ายลูกค้าคอนซูเมอร์ของไซแมนเทคถึงกับบอกว่า Morro เป็นร่างทรงของ OneCare ที่ไมโครซอฟท์จะโละออกจากร้าน โดยบอกว่าชุดรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบคือสิ่งที่ผู้บริโภค ทุกวันนี้ต้องการ เพื่อการถูกปกป้องแบบครบวงจร
ฝ่ายจอริส เอเวอร์ส (Joris Evers) ประชาสัมพันธ์แมคอาฟีกล่าวในเชิงว่าแมคอาฟีสามารถยืนหยัดได้สวยงามท่ามกลาง ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีหลากชนิดอยู่แล้ว หากเพิ่ม Morro ขึ้นมาอีกรายก็คงไม่ต่างกัน
สำหรับบริษัทเทรนด์ไมโคร (Trend Micro) บริษัทแอนตี้ไวรัสอันดับ 3 ของสหรัฐฯ นั้นไม่มีรายงานความคิดเห็นจากประชาสัมพันธ์เทรนด์ไมโคร
via: Microsoft